เที่ยวพระราชวังโปตาลา (Potala Palace)

By | July 17, 2020

ใครที่หลงใหลชื่นชอบในสถาปัตยกรรมแบบทิเบต ต้องไม่พลาดที่นี่ พระราชวังโปตาลา (Potala Palace) ที่เมืองลาซา (Lhasa) ประเทศทิเบตนั่นเอง ที่นี่สวยงามยิ่งใหญ่สมคำร่ำลือจริงๆ และจัดเป็นสัญลักษณ์ของทิเบตเลยก็ว่าได้ด้วยพระราชวังขนาดใหญ่ ภายในประกอบไปด้วย บ้าน หอคอย โบสถ์ และอีกมากมาย ด้วยทำเลที่ตั้งทำให้ที่นี่ได้ถูกจดบันทึกในกินเนส เวิลด์ เรคคอร์ด (Guinness World Records) ว่าเป็นพระราชวังที่สูงที่สุดในโลก!!! สูงที่ระดับ 3,700 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และได้รับการยกย่องว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่มีสไตล์งดงามมว๊ากกที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยจ้า*0* พระราชวังโปตาลาถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในศตวรรษที่ 7 และได้รับการบูรณะใหม่หลายครั้ง สร้างมามากกว่า 1300 ปีแล้ว อาคารหลักของพระราชวังโปตาลาตั้งอยู่ที่เทือกเขาแดง (Red Hill) ข้างแม่น้ำลาซา (Lhasa River)

และในฐานะที่ลาซา พระราชวังโปตาลา วัดโจคัง (Jokhang Temple) พระราชวังโนร์บูกลิงกา (Norbulingka) มีความงามและคุณค่าทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก จึงได้รับการจดทะเบียนขึ้นเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO World Heritage Site) อีกด้วยจ้า นี่แหล่ะคุณค่าที่คุณคู่ควร

พระราชวังโปตาลาจัดเป็นหนึ่งในสุดยอดสถาปัตยกรรมที่สร้างบนเนินเขาสูงชันเลยก็ว่าได้ ตัวพระราชวังแบ่งเป็นชั้นนอก 13 ชั้น สูงทั้งหมด 117 เมตร สร้างด้วยไม้และหิน กำแพงเป็นหินแกรนิตหนา 2-5 เมตร หลังคาและชายคาสร้างด้วยไม้ที่มีการแกะสลักเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา

พระราชวังถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ พระราชวังสีขาว และพระราชวังสีแดง พระราชวังสีขาว ส่วนที่ล้อมรอบ เป็นที่อยู่อาศัยขององค์ดาไลลามะ (Dalai Lama) และเป็นส่วนของสำนักงานที่จัดการกับกิจกรรมทางการเมืองและพุทธกิจทั้งหลาย ส่วนพระราชวังสีแดงอยู่ตรงกลางด้านใน คืออาคารหลักยาว 117 เมตร ประกอบไปด้วยห้องโถงทางศาสนาที่มีรูปแบบแตกต่างกันไป รวมถึงโบสถ์ และห้องสมุดอีกด้วยจ้า

ภายในพระราชวังสวยงามอลังการนั้นตกแต่งด้วยผลงานวิจิตรศิลป์ ที่โดดเด่นสุดๆ นั่นคือภาพเขียนฝาผนัง 698 บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของทิเบต อย่างเช่น การมาทิเบตของเจ้าหญิงเหวินเฉิง (Princess Wencheng to Tibet) หรือเรื่องราวของผู้นำทางจิตวิญญาณที่มีชื่อเสียงอย่างองค์ดาไลลามะที่ 5 เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีทังก้า (Thangkas) มากมาย ซึ่งเป็นภาพวาดบนผืนผ้า แทนสัมมาสัมพุทธเจ้าของชาวทิเบต เปรียบเสมือนพระพุทธรูปนั่นเอง รวมไปถึงงานฝีมือนำเสนอชีวิตท้องถิ่นชาวทิเบต ภาพวาดยูเรเนี่ยมบนผืนผ้าไหม ผ้าหรือกระดาษล้อมกรอบด้วยผ้าซาติน งานเค้าดีจริงค่ะ

ในสมัยโบราณ ที่นี่เคยเป็นโรงเรียนสอนพุทธศาสนามาก่อน และเป็นที่เก็บสถูปขององค์ดาไลลามะองค์ก่อนๆ เอาไว้ด้วย รวมถึงรูปปั้นอันทรงคุณค่า เช่น พระสองขะปะ (Tsongkhapa) องค์คุรุปัทมสัมภวะ (Padmasambhava) องค์ศากยมุนี (Sakyamuni) องค์ดาไล ลามะ (Dalai Lama)และ พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภา (Medicine Buddha)เหล่านี้จัดเป็นผลงานที่ผสมผสานศิลปะทางพุทธศาสนาอันหลากหลาย เข้ากับราชวงศ์ฮั่น (Han Dynasty) อินเดีย และเนปาล จึงนับเป็นสมบัติอันทรงคุณค่าอีกอย่างหนึ่งของที่นี่ งานนี้บอกเลยว่า อันซีนสุดๆ ค่า สวยลึกลับ น่าค้นหาจริง