ชวนเที่ยวจีน ไปตะลุยเที่ยวที่เที่ยวจีนสวย ๆ แลนด์มาร์กเด่นที่น่าไปสัมผัสด้วยตาตัวเองสักครั้ง เป็นที่เที่ยวธรรมชาติจีนอันน่าทึ่ง สวยงามสะดุดตาสุด ๆ
ด้วยอาณาเขตของประเทศจีนที่กว้างใหญ่ไพศาล ดินแดนแห่งนี้จึงมีลักษณะภูมิประเทศและภูมิอากาศที่แตกต่างกันออกไป นั่นส่งผลให้เกิดธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์มากมาย ซึ่งได้กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าทึ่งที่บางสถานที่แทบไม่น่าเชื่อว่าจะมีอยู่บนโลกใบนี้ และเว็บไซต์ boredpanda ได้รวบรวมสถานที่สุดอัศจรรย์ในประเทศจีน ที่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องไปเที่ยวจีนกันให้ได้สักครั้งในชีวิต ซึ่งสถานที่ที่ว่านี้จะมีที่ไหนบ้าง ตามไปอึ้งและทึ่งกับเรากันเลยค่ะ
1. ภูเขาเทียนจื่อ (Tianzi Mountain Nature Reserve)
ธรรมชาติมักจะสร้างสรรค์สิ่งที่ไม่ธรรมดาให้กับโลกใบนี้เสมอ ซึ่งหุบเขาเทียนจื่อก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ธรรมชาติได้หล่อหลอมสร้างขึ้น โดยใช้การรวมพลังกันของลม น้ำฝน และแสงแดด ในการกัดกร่อนภูเขาหินปูนให้กลายเป็นเสาหินปูนสูงเสียดฟ้า เมื่อมองจากจุดชมวิวที่ระดับความสูง 692 เมตร
นักท่องเที่ยวจะต้องตื่นตะลึงกับความงดงามของเสาหินปูนที่ตั้งอย่างโดดเด่นบนพื้นที่มากกว่า 67 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเราจะเห็นสีน้ำตาลของหินปูนถูกแต่งแต้มไปด้วยสีเขียวของต้นไม้ที่ขึ้นแทรกอยู่บนเสาทั่วทั้งหุบเขา ภูเขาเทียนจื่อ ตั้งอยู่ที่มณฑลหูหนาน (Hunan) มีจุดสูงสุดที่ 1,262 เมตร จากระดับน้ำทะเล นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการเคเบิลคาร์เพื่อขึ้นไปที่จุดชมวิวได้ และยังสามารถเที่ยวในจุดใกล้เคียงอย่าง Yangjiajie, Suoxiyu และ Zhangjiajie ได้อีกด้วย
2. อุทยานแห่งชาติหวงหลง (Huanglong National Scenic Reserve)
ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลเสฉวน เป็นอีกหนึ่งหุบเขาที่งดงาม ซึ่งเอกลักษณ์โดดเด่นก็คือยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ พร้อมทั้งยังมีธารน้ำแข็งที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของจีนอีกด้วย ภายในอุทยานมีทั้งป่าเขาในแบบต่าง ๆ สัตว์ป่า โดยเฉพาะหมีแพนด้า ภูเขาหินปูน น้ำตก พร้อมทั้งบ่อน้ำพุร้อน
สิ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อมาที่นี่คือ การไปชมบ่อน้ำพุร้อนต่าง ๆ ในอุทยาน ซึ่งน้ำในนั้นจะเป็นสีฟ้าใสราวกับคริสตัล บางแห่งไหลลดหลั่นกันเป็นชั้น ๆ เกิดเป็นภาพที่งดงามแปลกตา โดยธรรมชาติสุดอัศจรรย์ภายในที่แห่งนี้ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกอีกด้วย
3. อุทยานธรณีวิทยาจางเย่ ตันเซี๋ย (Zhangye Danxia National Geological Park)
ใครเลยจะคิดว่าฟ้าฝนและลมจะสามารถสร้างดินแดนที่งดงามราวกับภาพวาดนี้ให้เกิดขึ้นได้ อุทยานธรณีวิทยาจางเย่ ตันเซี๋ย หรือเจ้าของฉายา “หุบเขาสายรุ้ง” เพราะมีลักษณะของภูเขาที่มีสีสันสวยงามแปลกตา ซึ่งเกิดจากหินทรายสีแดงถูกชะล้างด้วยน้ำฝนและลม ที่ทำให้เห็นเป็นสีต่าง ๆ ในหุบเขาอย่างชัดเจน และยังทำให้เกิดเป็นริ้วในหุบเขาอีกด้วย
ภาพจาก suronin / shutterstock.com
โทนสีที่เราเห็นเด่นชัดที่สุดคือโทนสีแดง ไล่ไปตั้งแต่สีเหลืองอ่อนไปจนถึงสีแดง สลับสีสันกันจนกลายเป็นริ้วสีรุ้งทั่วทั้งหุบเขา อุทยานธรณีวิทยาจางเย่ ตันเซี๋ย ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของมณฑลกานซู (Gansu) ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเข้าเยี่ยมชมคือช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน
4. น้ำตกเต๋อเทียน (Detian Waterfall)
น้ำตกเต๋อเทียน ตั้งอยู่ในเขตชายแดนประเทศจีน-เวียดนาม ทางด้านฝั่งประเทศจีนนั้นตั้งอยู่ที่เมืองฉงจัว (Chongzuo) เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง (Guangxi Zhuang) น้ำตกแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นน้ำตกเขตชายแดนที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก ซึ่งมีความกว้างทั้งหมดประมาณ 200 เมตร และสูงประมาณ 30 เมตร
นอกจากการชมความอลังการของน้ำตกแห่งนี้แล้ว นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดที่จะนั่งเรือไม้ไผ่ของชาวบ้านเพื่อเข้าไปชมความยิ่งใหญ่ของน้ำตกอย่างใกล้ชิด ซึ่งชาวบ้านจะใช้เรือไม่ไผ่โบราณล่องไปในแอ่งน้ำตก พร้อมกับร้องเพลงพื้นเมือง เพื่อให้ความเพลิดเพลินแก่นักท่องเที่ยว ทำให้มีบรรยากาศผ่อนคลาย น่าประทับใจสุด ๆ
5. กำแพงเมืองจีน (The Great Wall)
สถาปัตยกรรมสุดทึ่งที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สร้างขึ้นมามากกว่า 2,000 ปีที่แล้ว ในช่วงสมัยของจิ๋นซีฮ่องเต้ (Qin Shi Huang) เพื่อป้องกันการรุกรานของข้าศึกทางด้านเหนือของประเทศในช่วงนั้น โดยสร้างขึ้นจากหิน ดิน ทราย และอิฐ เป็นระยะทางยาวตั้งแต่ทางด้านทิศตะวันตกจรดด้านทิศตะวันออก ผ่านหุบเขา ทุ่งหญ้า ทะเลทราย ที่ราบสูง รวมระยะทางมากกว่า 21,196 กิโลเมตร
โดยมีอยู่ 3 จุดยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวนิยมที่จะไปเข้าเที่ยวชม คือ เขต Mutianyu, เขต Jinshanling และเขต Jiankou โดยสถาปัตยกรรมก้องโลกแห่งนี้ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1987
6. ทะเลสาบ Qiandao (Thousand Islets Lake)
ทะเลสาบที่ตั้งอยู่ที่เมือง Chun An ห่างจากทางด้านตะวันตกของเมืองหางโจว (Hangzhou) ประมาณ 150 กิโลเมตร และห่างจากทางด้านทิศตะวันออกของเขาหวงซาน มณฑลอันฮุย ประมาณ 140 กิโลเมตร ครอบคลุมเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 573 ตารางกิโลเมตร
ทะเลสาบแห่งนี้เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1959 จากการสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ Anjiang (Xin’anjiang Hydropower Station) นั่นจึงทำให้ในทะเลสาบมีภูมิทัศน์ที่งดงามแปลกตา เพราะได้เกิดเกาะเล็ก ๆ ขึ้นมากกว่า 1,000 เกาะ ท่ามกลางน้ำสีเขียวมรกตใสสะอาด และยังมีต้นไม้เขียวขจีอีกด้วย หากมองทะเลสาบแห่งนี้จากมุมมองจะเห็นว่ามีเกาะเล็กเกาะน้อยมากมายในทะเลสาบ เป็นภาพที่น่าประทับใจมาก ๆ
7. เขาหวงซาน (Huangshan)
เขาหวงซาน หรือมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Yellow Mountain เป็นแนวเทือกเขาที่ทอดตัวยาวอยู่ทางตอนใต้ของมณฑลอันฮุย (Anhui) ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องของธรรมชาติที่สวยงาม มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ มีโขดหินรูปทรงคล้ายกับเสาหินสูงตั้งอยู่ในเทือกเขาอย่างโดดเด่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญของภูเขาแห่งนี้ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังจะได้ชื่นชมหมู่บ้านโบราณที่หมู่บ้าน Xidi และหมู่บ้าน Hongcun พร้อมกับการดื่มชาที่เป็นของดีของที่นี่อีกด้วย
8. น้ำตก Pearl Shoal
น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติจิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou Valley National Park) มณฑลเสฉวน อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,433 เมตร มีความกว้างประมาณ 310 เมตร และสูง 40 เมตร ธรรมชาติรอบข้างเต็มไปด้วยต้นไม้มากมายหลากหลายสายพันธุ์ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่นี่จะเป็นอีกหนึ่งจุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามแห่งหนึ่งของจีน นักท่องเที่ยวจะได้เห็นสีสันของใบไม้ตัดกับสายน้ำที่ไหลลงสู่ชั้นหินอันสูงชันอย่างงดงาม
9. ภูเขา Maijishan (Maijishan Grottoes)
ภูเขาหินปูนสีแดงที่มีลักษณะโดดเด่น ด้วยตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางป่าไม้สีเขียวขจี มีความสูงประมาณ 150 เมตร เอกลักษณ์ของภูเขา Maijishan ก็คือเป็นภูเขาที่มีถ้ำอยู่ภายในมากมาย พร้อมด้วยรูปปั้นดินเหนียวและรูปปั้นหินแกะสลักมากกว่า 7,000 แห่ง มีการสร้างทางเดินเล็ก ๆ ติดไปกับภูเขา เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมกับผลงานศิลปะทางพระพุทธศาสนาอย่างเต็มอิ่ม
10. แม่น้ำแยงซี (Yangtze River)
แม่น้ำที่มีความสำคัญอันดับต้น ๆ ของประเทศจีน ด้วยเป็นแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดของจีนและใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกเลยทีเดียว แม่น้ำแยงซีมีความยาวมากกว่า 6,380 กิโลเมตร ไหลหล่อเลี้ยงคนจีนมาอย่างยาวนานและหลายมณฑลด้วยกัน ซึ่งทั้งสองฝั่งของแม่น้ำจะผ่านป่าเขา เขื่อน เมือง และบ้านเรือนของชาวบ้านมากมาย กิจกรรมการล่องเรือในแม่น้ำแยงซีจึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง
11. หาดสีแดง (Red Beach)
หาดสีแดง ตั้งอยู่ที่เมือง Panjin มณฑลเหลียวหนิง เป็นพื้นที่ที่มีความสวยงามและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของเมือง Panjin ลักษณะอันโดดเด่นก็คือ พื้นที่ชุ่มน้ำบริเวณนี้จะเต็มไปด้วยพืชตระกูลหญ้าชนิดหนึ่ง ซึ่งมีสีแดง โดยในบริเวณนี้จะเป็นพื้นที่ที่มีน้ำและอากาศเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชชนิดนี้ นั่นจึงทำให้ในพื้นที่มากกว่า 100 ตารางกิโลเมตร เต็มไปด้วยพืชสีแดง กลายเป็นหาดสีแดงสวยงาม นักท่องเที่ยวนิยมที่จะมานอนพักในรีสอร์ตใกล้เคียง เพื่อรับชมความงดงามของหาดสีแดงในยามเช้าและช่วงตะวันตกดิน
12. พื้นที่ Libo Zhangjiang
พื้นที่ Libo Zhangjiangตั้งอยู่ในเขตเมือง Libo มณฑลกุ้ยโจว ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 273 ตารางกิโลเมตร ซึ่งประกอบไปด้วยภูเขาสูงใหญ่ พร้อมทั้งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีสระน้ำสีเขียวมรกตอันเป็นเอกลักษณ์ มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจจำนวนมาก เพราะที่นี่เงียบสงบ มีอากาศบริสุทธิ์ สามารถดื่มด่ำกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
13. ถนนในหุบเขาเทียนเหมิน (Tianmen Mountains)
หุบเขาเทียนเหมิน เป็นหนึ่งในหุบเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ด้วยมีธรรมชาติที่งดงามและน่าหลงใหล จนได้ฉายาว่าประตูแห่งสวรรค์ (Heaven’s Door) ตั้งอยู่ในเมืองจางเจียเจี้ย (zhangjiajie) มณฑลหูหนาน ภายในเขตหุบเขาแห่งนี้ประกอบไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เช่น ทางเดินสุดหวาดเสียวที่สร้างขึ้นริมภูเขาสูงชัน, ทางเดินกระจกบนความสูงมากกว่า 1,000 ฟุต และถ้ำเทียนเหมิน อันเป็นที่มาของคำว่า Heaven’s Door ฯลฯ
และที่พลาดไม่ได้ก็คือ ถนน 99 โค้ง ซึ่งเป็นเส้นทางคดเคี้ยวไปตามไหล่เขา เพื่อไปยังถ้ำเทียนเหมิน รวมทั้งหมด 99 โค้ง เมื่อมองจากมุมสูงจะเห็นถึงความสวยงามของเส้นทางนี้ที่โอบล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวขจี
14. เมือง Yangshuo เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง
ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองกุ้ยหลิน ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง (Guangxi Zhuang) เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่างดงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศจีน ด้วยมีทัศนียภาพของธรรมชาติที่สวยงาม มีกลิ่นอายของชนบท ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย บรรยากาศเงียบสงบ มีแม่น้ำที่สำคัญคือ แม่น้ำหลี่
นักท่องเที่ยวที่ล่องเรือเที่ยวก็จะมาพบกับเมืองแห่งนี้เป็นจุดสุดท้ายของการล่องเรือในแม่น้ำหลี่ ซึ่งจะได้ชื่นชมกับธรรมชาติสองฟากฝั่งได้อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งชมบ้านเรือนเก่าแก่ และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์พื้นเมืองแท้ ๆ ในราคาย่อมเยาอีกด้วย
15. เกาะ Goqui
เป็นเกาะหนึ่งในหมู่เกาะ Shengsi บริเวณปากแม่น้ำแยงซี อันที่จริงหมู่บ้านแห่งนี้เป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงธรรมดาเท่านั้น ปัจจุบันไม่มีใครอยู่แล้ว เมื่อเวลาผ่านมาหลายปีธรรมชาติได้สร้างสรรค์สิ่งที่งดงามขึ้น ต้นไม้ในตระกูลไม้เลื้อยต่าง ๆ พากันไต่เลื้อยปกคลุมบ้านของชาวบ้านที่ตั้งอยู่บนเกาะ
ซึ่งบ้านบางหลังตั้งอยู่ริมหน้าผา ริมทะเล เมื่อมองจากในเรือที่ล่องแม่น้ำแยงซี ก็จะพบว่ามันได้กลายเป็นสถานที่ที่แสนสวยงาม เมื่อมองอีกมุมหนึ่งนั้นมันกลับให้ความรู้สึกที่โรแมนติกด้วยซ้ำ ยิ่งในช่วงหน้าหนาวที่มีหมอกปกคุลมก็ยิ่งทำให้ที่นี่มีความงดงามมากยิ่งขึ้น
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ เราเชื่อว่าสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ทำให้คุณตื่นตะลึงกับประเทศจีนได้ไม่มากก็น้อยเลยล่ะ อันที่จริงเมืองจีนยังมีอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกมากมาย ถ้าที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ทำให้คุณประทับใจ แล้วทำไมถึงไม่ไปสัมผัสกับมันกันด้วยตัวเองสักครั้งล่ะ หากยังไม่มีจุดหมายปลายทางที่ไหนในวันลาพักร้อนหรือวันหยุดยาว ประเทศจีนก็เป็นตัวเลือกที่กิ๊บเก๋ไม่ใช่เล่นเลยทีเดียว 🙂