ทุกครั้งที่นึกถึงธรรมชาติ สถาปัตยกรรมสวยๆ สุด Unseen เรามักจะมองข้ามความสวยงามของโซนเอเชีย แล้วมักจะมุ่งหน้าบินลัดฟ้าไปเที่ยวโซนยุโรป อเมริกากันซะหมด แต่ใครจะรู้ว่า ความจริงแล้วไม่จำเป็นต้องนั่งเครื่องบินนานๆ ไปเที่ยวไกลๆ ถึงซีกโลกฝั่งตะวันตก แค่นั่งเครื่องบินไปเที่ยวกันที่ ‘จีน’ แผ่นดินใหญ่
1. Blue Moon Valley
ประเดิมที่แรกก็สวยจนแทบลืมหายใจไปเล้ยยย กับ Blue Moon Valley หรือ หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน แชงกรีล่า ในมณฑลยูนนาน ชาวจีนเชื่อกันว่าที่นี่เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ สามารถเดินทางขึ้นไปสู่ยอดเขาสูงสุดของที่นี่ได้ด้วยกระเช้าลอยฟ้า โดยจุดแรกนั้น ต้องแวะที่หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน แล้วถ่ายรูปสวยๆ ที่มีแบกกราวน์เป็นภูเขาหิมะสือข่า หุบเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ก่อนจะไปต่อที่จุดบนสุดเพื่อชมวิวสวยๆ แบบ 360 องศา! เลอค่าสุดอะไรสุด ณ จุดนี้!
2. Crescent Moon Lake
เที่ยวต่อไม่รอแล้วน้าาา… มาต่อกันที่ทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยว โอเอซิสชุ่มน้ำกลางทะเลทรายโกบี ที่เมืองตุนหวง มณฆลกานซู ที่มีทะเลสาบรูปร่างคล้ายกับพระจันทร์เสี้ยว โอบล้อมด้วยเนินทรายขนาดใหญ่ เห็นแบบนี้หลายคนอาจจะคิดว่าร้อน ขอถอดใจดีกว่า แต่บอกเลยนะว่าที่นี่เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีคนเดินทางมาเที่ยวกันเป็นหลักล้านทุกปี! แบบว่า ฮอตมาก! ความพิเศษของที่นี่ มีทั้งกระแสลมที่พัดขึ้นไปด้านบน เกิดเป็นสันทรายสูงๆ แต่ไม่กลบตัวทะเลสาบ แถมน้ำในทะเลสาบยังไม่แห้งและไม่ขุ่นมัวอีกต่างหากนะเธอ!
3. Dagu Glacier National Park
ใครที่มีฝันอยากไปชมความสวยงามของภูเขาหิมะสีขาวอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ไม่ต้องบินไปยุโรปแล้วนะ แค่จองตั๋ว China Airlines มาเที่ยวจีน แล้วไปที่เฉิงตูก็พอ สำหรับ อุทยานภูผาหิมะต้ากู่กลาเซียร์ (Dagu Glacier National Park) นั้นบอกเลยว่าวิวดี เหมือนอยู่สวิสเซอร์แลนด์ ทั้งน้ำนิ่งใส ภูเขาสวย และฟ้าใส มาพร้อมกลิ่นอายวัฒนธรรมธิเบต สวยจนได้รับขนานนามว่าเป็น อุทยานสวรรค์ เพราะความสวยงามนั้นสวยเหมือนอยู่บนสวรรค์เลยจริงๆ
4. Danxia Landform
ไม่ต้องไปเปรู แต่จองตั๋ว China Airlines มาเที่ยวจีน แล้วเดินทางมาที่อุทยานธรณีวิทยาตันเสียจางเย่ ก็มีภูเขาสีรุ้งสุดแจ่มให้เราชมได้เหมือนกัน! ที่นี่อยู่ใกล้ๆเมืองจางเย่ มณฑลกานซู และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเรียบร้อยแล้ว สำหรับแนวเขาริ้วสีสวยธรรมชาติสร้างสุดมหัศจรรย์นี้ เกิดขึ้นจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกเมื่อหลายล้านปีก่อน ลมและฝนกัดเซาะแนวเขาจนเกิดเป็นความสวยงาม และเป็นจุดไฮไลต์ที่ใครๆ ก็ต้องตะลึง (ในความสวย) !
5. Daocheng Yading Nature Reserve
เที่ยวต่อกันที่แชงกรีล่าแห่งสุดท้าย หรือ อุทยานย่าติง แดนหิมะโพลนกันดีกว่า ต้องบอกเลยว่าที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม วิวอลังการ และความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ใครที่เดินมาที่นี่จะต้องรู้สึกคุ้มค่าสุดๆ เพราะคุณจะได้เห็นวิวสวย ป่าเปลี่ยนสี ทุ่งหญ้า ทะเลสาบ ภูเขาหิมะในคราวเดียวกัน! สำหรับใครที่มีใจอยากมาชมความสวยงามของย่าติงล่ะก็ ใจอย่างเดียวคงไม่พอ ร่างต้องพร้อมด้วย เพราะย่าติงตั้งอยู่บนที่สูง ออกซิเจนน้อย แถมยังใช้เวลาในการเดินเท้าเยอะซะเดียว อะ ว่าแล้วก็ไปฟิตร่างกายกันเลยดีกว่า!
6. Guilin
เบื่อแล้วกุ้ยหลิงเมืองไทย ขอบินไปเที่ยวกุ้ยหลิงของจริงไม่ติงนังกันที่เมืองจีนบ้างดีกว่า อย่างที่รู้ๆ กันดีว่า กุ้ยหลิน นั้น ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามของธรรมชาติ และเป็นเมืองที่มีชื่อเสียง มีทัศนียภาพที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองจีน จนได้รับสมญานามว่าเป็น เมืองสวรรค์บนพื้นพิภพ สวยขนาดนี้ก็ต้องจองตั๋ว China Airlines ไปเที่ยวจีน เยือนกุ้ยหลินสักทีแล้วแหละ!
7. Hongcun Village
นอกจากธรรมชาติจะสวยอิ่มใจแล้ว เรื่องสถาปัตยกรรม หมู่บ้านโบราณที่เมืองจีนก็สวยไม่แพ้กัน หมู่บ้านโบราณหงชุน บริเวณเชิงเขาหวงซาน มีประวัติศาสตร์ยาวนาน 900 ปีแห่งนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เราอยากให้ทุกคนมาเยือน ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก UNESCO ในปี 2000 เป็นสถาปัตยกรรมของราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ใช้อิฐและปูนสีขาวเป็นโครงสร้างหลัก และมุมหลังคาด้วยกระเบื้องตามแบบจีน สวยจนนึกว่าหลุดออกมาจากภาพวาดเลยล่ะ!
8. Inner Mongolia
เตรียมแบตเตอรี่และกล้องถ่ายรูปไปให้ดี เพราะเราจะพาไปเที่ยวกันต่อแบบรัวๆ Non-Stop กันที่เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน (แต่ยังอยู่ในเขตประเทศจีนนะ) ที่นี่เป็นเหมือนสวรรค์ของช่างภาพและคนที่ชอบการถ่ายรูปทั้งหลายเลยล่ะ สำหรับใครที่อยากมาเที่ยวที่นี่ แนะนำเป็นช่วงหน้าร้อนของจีน สักเดือนมิถุนายน กรกฎาคม หรือสิงหาคมจะเวิร์กมาก อากาศกำลังดี ทุ่งหญ้าเขียวขจี พร้อมดอกกวางตุ้งสวยๆ บานเต็มที่
9. Jiuzhaigou
ชมความสวยสุดมหัศจรรย์ของธรรมชาติกันต่อที่ หุบเขาจิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou) สำหรับหุบเขาแห่งนี้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติทางตอนเหนือของมณฑลเสฉวน มีไฮไลต์อยู่ที่ทะเลสาบที่สวยชวนใจละลาย ยิ่งถ้าได้มาเที่ยวในฤดูใบไม้ร่วงล่ะก็ เวลาที่ใบไม้สีเหลืองสะท้อนกับผืนน้ำสีเขียวมรกตจะยิ่งได้ภาพและวิวที่สวยสะกดใจสุดๆ และแน่นอนว่าสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ แบบนี้ย่อมได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจาก UNESCO เรียบร้อยแล้วจ้า
10. Qinghai Lake
ต้องร้องว้าวให้จีนอีกกี่ครั้งถึงจะพอ! ครั้งนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวที่ ทะเลสาบชิงไห่ ทะเลสาบสำคัญของมณฑลชิงไห่ และควบตำแหน่งเป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนด้วย ทีนี่ถือเป็นจุดที่ครบเครื่องเรื่องทัศนียภาพมาก-มากที่สุด! เพราะมีทั้งทุ่งหญ้า ทะเลทราย และภูเขาหิมะ! ครบกว่านี้คือไม่มีอีกแล้ว ส่วนใครที่โชคดีมาในช่วงเดือนสิงหาคมหรือกันยายนก็จะมีโอกาสได้เจอกับความสวยงามของดอกน้ำมันพืชสีเหลืองอร่ามที่บริเวณทางฝั่งด้านเหนือของทะเลสาบชิงไห่ ใครไม่ไปคือพลาดมาก!
11. The Bund
สลับมาเที่ยวชมความสวยงามสุดใจกันในตัวเมืองบ้างดีกว่า ที่เซี่ยงไฮ้ เขามีจุดไฮไลต์สวยๆ อยู่ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำหวงผู่ นั่นก็คือ The Bund หรือที่คนจีนเรียกกันว่าหาดไว่ทันนั่นเอง ที่บอกว่าที่นี่เป็นไฮไลต์ของเซี่ยงไฮ้ก็เพราะเป็นย่านที่เต็มไปด้วยตึกเก่า สถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปในยุคศตวรรษที่ 19 เป็นโลเกชั่นในการถ่ายหนังดังหลายเรื่อง ใครเป็นแฟน F4 เวอร์ชั่นจีนน่าจะคุ้นตา แถมได้รับการขนานนามว่าเป็น An International Exhibition of Architecture หรือนิทรรศการแสดงสถาปัตยกรรมนานาชาติ
12. The Great Wall of China
เคยแต่ได้ยินชื่อกำแพงเมืองจีน ถึงเวลาบินไปสัมผัสความสวยงามของ 1 ใน 7 ของสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่กำแพงหมื่นลี้นี้ได้แล้ว! กำแพงเมืองจีนถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณ 2,500 ปีมาแล้ว มีอาณาเขตครอบคลุมทั้งหมดถึง 9 มณฑล ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO โดยกำแพงเมืองจีนมีลักษณะรูปร่างคล้ายกับมังกรที่ขดตัวอยู่เหนือภูเขา และใช้ระยะเวลาทั้งสิ้นเกือบสองพันปี!
13. Tianmen Mountains
หนึ่งในหุบเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกที่ตั้งอยู่ในประเทศจีนก็ต้องยกให้กับ หุบเขาเทียนเหมิน นี่ล่ะ! ที่นี่ตั้งอยู่ในเมืองจางเจียเจี้ย เต็มไปด้วยสิ่งน่าสนใจ และธรรมชาติอันน่าหลงใหลมากมายจนได้รับฉายาว่าเป็นประตูแห่งสวรรค์ (Heaven’s Door) ใครที่ชอบความสวยและความเสียวก็ต้องมาที่นี่ เพราะมีทางเดินริมภูเขาสูงให้เราขึ้นไปชมวิวธรรมชาติสวยๆ มีถ้ำเทียนเหมิน และถนน 99 โค้ง ซึ่งเป็นเส้นทางคดเคี้ยวไปมาตามไหล่เขา
14. Zhangjiajie Glass Floor Bridge
มาจางเจียเจี้ยแล้ว ก็ต้องมาเดินชมวิวสวยและสัมผัสความหวาดเสียวกันต่อที่สะพานกระจกจางเจียเจี้ย สะพาน สะพานแขวนพื้นกระจกที่ยาวและสูงที่สุดในโลก มีความยาว 430 เมตร และสูงจากพื้นถึง 300 เมตร โดยสะพานนี้จะทำการเชื่อมระหว่างสองหน้าผาของภูเขาอวตารนั่นเอง ใครที่อยากมาโพสต์ท่าสวยๆ และชมวิวงามๆ ของธรรมชาติก็อย่าพลาดกันล่ะ
15. West Lake
ใครจะเรียกที่นี่ว่า West Lake หรือทะเลสาบหางโจว หรือจะทะเลสาบซีหู ก็คือที่เดียวกันหมดนั่นล่ะ โดยทะเลสาบแห่งนี้อยู่ในตัวเมืองหางโจว เมืองเก่าเมืองแก่ของประเทศจีน แน่นอนว่าเมื่อเป็นเมืองเก่าแก่ บรรยากาศความงามของทะเลสาบแห่งนี้ก็ต้องได้ฟีลจีนโบราณแน่ๆ แถมยังได้เห็นวิวสวยของเจดีย์เหลยเฟิง เจดีย์ทรงแปดเหลียมชื่อดังประจำเมือง บอกเลยว่า ล่องแพดื่มด่ำความสวยงามยามเย็นของเมืองมรดกโลกแห่งนี้คือนิพพานมากกก!
16. Wulingyuan
งามหยดย้อยยยยไปอี้กก(เสียงสูง*) สำหรับอู่หลิงหยวนนั้น อยู่ในเขตเมืองจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie) เช่นกัน หลายคนอาจจะคุ้นๆ กับอู่หลิงหยวนกันสักนิด เพราะ แนวภูเขาหินปูนสูงต่ำสลับกันอย่างสวยงามกว่า 200 ลูกนี้ คือ อุทยานธรรมชาติมรดกโลกที่เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ฉากในภาพยนตร์เรื่อง Avatar นี่เอง แถมยังมีธรรมชาติสุดอลังอย่าง ธารน้ำจินเปียนซีให้เราได้เดินลัดเลาะริมน้ำชมธรรมชาติ และขึ้นไปชมวิวสวยจากมุมสูงที่ ลิฟท์แก้วมังกร ลิฟท์ริมหน้าผาที่สูงที่สุดและรับน้ำหนักได้มากที่สุดในโลก
17. Wulong National Park
ก่อนตายยังไงก็ต้องได้ไปอู่หลงสักครั้ง! อู่หลงตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองฉงชิ่ง ได้รับฉายาว่าเป็น หลุมฟ้า 3 สะพานสวรรค์ เป็นเมืองที่อยู่ท่ามกลางหุบเขาเกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกเป็นบ่อหลุมขนาดใหญ่ โอบล้อมด้วยภูเขาสูง บางส่วนของที่นี่เป็นโพลงทะลุเหมือนสะพานข้ามภูเขา ให้บรรยากาศเหมือนสะพานสู่สวรรค์ยังไงยังงั้น ถ้าอยากมาเที่ยวธรรมชาติแบบพรีเมียมล่ะก็ ยังไงก็ต้องซื้อตั๋วเครื่องบินแล้วบินมาเที่ยวจีนให้ได้!
18. Xian City Wall
นอกจากกำแพงเมืองจีนแล้ว กำแพงเมืองซีอานก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ทุกคนควรมามาก! เพราะซีอานเป็นเมืองเก่าแก่ของจีน และกำแพงเมืองซีอานก็ถือเป็นป้อมปราการประจำท้องถิ่นที่เก่าแก่ที่สุดและได้รับการรักษาไว้อย่างดีที่สุดในประเทศจีนเช่นกัน โดยนักท่องเที่ยวอย่างเราสามารถขึ้นไปปั่นจักรยาน เดินเล่น หรือนั่งรถกอล์ฟชมวิวสวยๆ ของเมืองซีอานได้บนกำแพงเมืองได้ บอกเลยว่าบรรยากาศดีและชิลล์สุดๆ
19. Yuanyang Rice Terrace
มาเติมเต็มความฟินด้วยความสวยจากมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานที่เมืองหยวนหยาง ที่เมืองนี้โด่งดังเรื่องนาขั้นบันไดที่สวยอลังกว่าใครเพื่อน ด้วยเนื้อที่ของนาที่มีความกว้างถึง 80,000 ไร่บนพื้นที่เนินและไหล่เขา ทำให้เราเห็นวิวทุ่งนาขั้นบันไดขนาดใหญ่สุดอัศจรรย์ ไม่ว่าจะเดินทางมาเที่ยวในหน้านา หรือหลังฤดูเก็บเกี่ยวก็จะได้พบความสวยในมุมมองที่แตกต่างกัน
20. Fenghuang
ปิดท้ายด้วยเมืองสวยของสายชิลล์ ที่เมืองโบราณ เฟิ่งหวง เมืองเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง เป็นเมืองเล็กๆ ที่ล้อมรอบด้วยภูเขาน้อยและใหญ่ มีแม่น้ำถัวเจียงไหลผ่านกลางเมือง เต็มไปด้วยโบราณสถานและโบราณวัตถุสำคัญๆ ที่ตกทอดมาจากราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง มาเที่ยวที่เฟิ่งหวงทั้งทีก็ต้องล่องเรือในแม่น้ำถัวเจียงเอาความชิลล์และชมวิถีชีวิต ความพื้นเมือง และความสวยงามของบ้านเรือนทั้งสองฝั่ง
สวยแบบไม่มีใครยอมใครกันเลยจริงๆ นะสำหรับสถานที่เที่ยวในเมืองจีน ทีนี้เชื่อกันหรือยังล่ะว่าไม่ต้องบินไปเที่ยวยุโรปก็สวย ฟิน และอินได้เหมือนกัน!
