ต้องบอกเลยว่าช่วง Low Season จำนวนนักท่องเที่ยวจะไม่เยอะมาก เวลาถ่ายรูปมานี้สวยแน่นอนครับ หรือเวลาจะไปไหนก็ไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวกับคนเยอะๆ ค่าทัวร์ ค่าตั๋ว หรือค่าที่พัก ก็จะมาราคาถูกลงแบบเยอะมาก และที่สำคัญหลายๆท่านอาจคิดว่าหน้าหนาวเป็นช่วงที่บรรยากาศดีที่สุด สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ แต่หารู้ไม่ว่า ช่วงปลายฝนต้นหนาว ที่สีเขียวๆ ของต้นไม้ใบหญ้า จะชอุ่มชุ่มชื่น คึกครื้นด้วยทะเลหมอก นี้แหละที่สวยที่สุดในรอบปี!! เกริ่นกันมาขนาดนี้แล้วคงต้องเข้าเรื่องกันแล้วละ.. วันนี้น้องแพนด้าขอเสนอ 10 อันดับ ท่องเที่ยวจีน ที่ช่วง Low Season ต้องไปให้ได้!! ช่วง Low Season ของประเทศจีน จะเป็นช่วงเดือน มิถุนายน – สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนของจีน ครับ แต่ไม่ถึงกับร้อนเหมือนบ้านเรานะ!! (ฮ่าๆ) อากาศปลอดโปร่ง มีฝนบ้างเล็กน้อยแล้วแต่ช่วง และถึงจะเป็นช่วง Low Season ของทุกที่ แต่บางสถานที่ในช่วงนี้กลับเป็นช่วงที่สวยที่สุดของปีเลยก็ว่าได้ อยากทราบกันแล้วใช่มั้ยครับว่ามีที่ไหนบ้าง ไปชมกันได้เลย!! กับ 10 อันดับ ท่องเที่ยวจีน ที่ช่วง Low Season ต้องไปให้ได้!!
อันดับ 10. ปักกิ่ง กำแพงเมืองจีน
ปักกิ่ง มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 3,000 ปี เป็นเมืองหลวงโบราณของจีน ตั้งแต่สมัยราชวงศ์เหลียว จิน หยวน หมิง และชิง รวม 5 ราชวงศ์ และเมื่อสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 2492 (ค.ศ. 1949) ก็ได้ตั้งให้ปักกิ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศ เป็นเมืองที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไปได้ทุกช่วงเลยครับ เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีสถานที่สำคัญมากมายตั้งอยู่ และด้วยปักกิ่งคือเมืองหลวงของประเทศจีน เรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกบอกเลยว่า ครบครันแน่นอน สำหรับคนที่เดินทางมาจีนครั้งแรก แนะนำที่นี่เลยครับ ยิ่งช่วง Low Season นักท่องเที่ยวมีน้อย โอ้โห!! ถ่ายรูปกันแบบรัวๆกันไปเลยคร้าบบ
อันดับ 9. จางเจียเจี้ย หุบเขาอวตาร
ยังไงก็ต้องไปให้ได้สำหรับ หุบเขาอวตาร จางเจียเจี้ย เพราะนอกจากความสวยงามของอุทยานแล้ว ยังมีสิ่งที่กระตุกต่อมเสียว!!ไว้ให้ทุกท่านได้วัดใจกันแบบหลากหลาย เช่น สะพานกระจกที่ยาวที่สุดในโลก มีความยาว 430 เมตร และสูงจากพื้นดิน 300 เมตรซึ่งแขวนอยู่ระหว่างภูเขา 2 ลูก หรือจะเป็นทางเดินกระจกระยะ 60 เมตรที่อยู่ในส่วนของทางเดินเลียบผา มีนั่งกระเช้า และขึ้นลิฟต์แก้วไป่หลง ที่สูงตระหง่าน 326 เมตร ที่นอกจากจะสูงปรี๊ดจนได้รับฉายาว่า “ลิฟต์แก้วร้อยมังกร” แล้ว ยังเป็นลิฟต์ที่มีความเร็วสูงถึงขนาดที่สามารถไต่หน้าผา 326 เมตรไปถึงยอดได้ ในเวลาเพียง 1 นาที
อันดับ 8. แชงกรีล่า ดินแดนในฝัน
แม้จะไปในช่วงหน้าร้อน แต่หนาวแน่นอน เพราะเดือนที่ร้อนที่สุดมีอุณภูมิเพียง! 11 องศา! …. ดินแดนในฝัน ที่ใครหลายคนอยากสัมผัสสักครั้งในชีวิต “แชงกรีล่า” เป็นชุมชนเก่าของชาวทิเบต มีชื่อเสียงจากวรรณกรรมบันลือโลก Lost Horizons ของ เจมส์ ฮิลตัน ในปี ค.ศ. 1933 ใครที่ชอบเที่ยวภูเขาแนะนำเลยครับ เพราะที่นี่มีภูเขาล้อมรอบทุกด้านจึงเที่ยวได้ทั้งในฤดูร้อน และฤดูหนาว สถานที่แนะนำคือ หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน ตั้งอยู่ห่างจากแชงกรีลาประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นหุบเขาสูงเกิน 4,000 เมตร เป็นหุบเขาที่มีหิมะปกคลุมเกือบทั้งปี เชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของชนเผ่าในลี่เจียง
อันดับ 7. อุทยานธารสวรรค์ จิ่วไจ้โกว
ที่นี่ก็เย็นเหมือนกัน!! ร้อนสุดเพียง 17 องศา สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปีครับ จิ่วไจ้โกว เป็นพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติทางตอนเหนือของมณฑลเสฉวน ประเทศจีน มีชื่อเสียงจากน้ำตกหลายระดับชั้นและทะเลสาบที่มีสีสันงดงาม และได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก เมื่อปี พ.ศ. 2535 ช่วงที่สวยที่สุดคือช่วงเดือนตุลาคม แต่ในช่วง Low Season นี้ ความสวยงามแทบไม่แตกต่างกันเลยครับ แล้วยิ่งคนน้อยๆด้วยเหมาะมากกับคนที่ต้องพื้นที่ส่วนตัว (ถ่ายรูป) ซึ่งช่วงนี้ จิ่วไจ้โกวจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ทุกท่านจะได้เห็นพื้นป่าที่เขียวขจีกับทะเลสาปสีฟ้าอมน้ำเงินในบริเวณน้ำลึก และกลับกลายเป็นสีเขียวมรกตในบริเวณน้ำตื้น และส่องประกายเป็นสีทองยามสะท้อนกับแสงแดดพราย
อันดับ 6. เฉินตู เขาง้อไบ๊ เล่อซาน
อันดับ 6 ขอมัดรวมกันไว้เลยละกันนะครับ สำหรับ เฉินตู ง้อไบ๊ เล่อซาน ไปขึ้นเขาชมพระอาทิตย์ขึ้น ดูทะเลหมอก บนยอดเขาจินติ่ง ขอแนะนำว่าให้ขึ้นช่วงบ่ายท้องฟ้าจะโปร่ง จะได้ภาพแจ๋วๆมาอวดเพื่อนแน่นอนครับและในช่วง Low Season นี้อาจจะเดินทางลำบากสักหน่อย แต่ด้วยอากาศที่เย็นสบาย และความสวยงามที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมโดยเฉพาะ พุทธศาสนิกชน ที่มานมัสการ หลวงพ่อโตเล่อซาน พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในโลกเพื่อสร้างความสงบสุขทางจิตใจ และเขาง้อไบ๊ ยังถือเป็น พุทธคีรี 1 ใน 4 แห่งของจีนอีกด้วย งานนี้สายบุญห้ามพลาดเลยทีเดียวเชียว!
อันดับ 5. คานาสือ สวรรค์ของช่างถ่ายภาพ
สวรรค์ของช่างถ่ายภาพโดยแท้จริง โดย คานาสือมีฉายาว่า “ทะเลสาบเปลี่ยนสี” ด้วยเหตุที่เมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง สีของน้ำในทะเลสาบก็จะเปลี่ยนตาม กล่าวคือในวันท้องฟ้าสดใสน้ำ ในทะเลสาบแห่งนี้จะเป็นสีเขียวครามเข้ม ในวันครึ้มฟ้าครึ้มฝน น้ำในทะเลสาบจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเทา และในช่วงฤดูร้อนที่อุณหภูมิเพิ่มขึ้นสูงน้ำในทะเลสาบ ก็จะสะท้อนออกมาเป็นสีเขียวครามขุ่น ยิ่งช่วง Low Season เป็นช่วงที่ทุ่งดอกไม้ป่ากำลัง เบ่งบาน วิวทิวทัศน์และผืนป่าสีเขียวสวยงาม อากาศเย็นสบายดีนักแล สรุปว่าถ่ายช่วงไหนก็สวยจริงๆครับ!!
อันดับ 4. เส้นทางสายไหม
ตามรอยพระถังซัมจั๋งกันดีกว่าครับ กับเส้นทางสายไหม เส้นทางประวัติศาสตร์ที่มีความยาว 6,437 กิโลเมตร (4,000 ไมล์) ได้ชื่อมาจากการค้าผ้าไหมจีนที่มีกำไรมากตลอดเส้นทาง เริ่มตั้งแต่ราชวงศ์ฮั่น (206 ปีก่อน ค.ศ. – ค.ศ. 220) ท่านไหนที่ชอบเส้นทางที่กึ่งผจญภัยนิดหน่อย ขอแนะนำเลยครับ ยิ่งช่วง Low Season นั้นคือไฮไลท์ของเส้นทางนี้เลยครับ กับอากาศที่ไม่ร้อนมาก ประมาณ 25-30 องศาเท่านั้น รับชมวัฒนธรรมและสิ่งก่อสร้างสำคัญที่มีอายุมากถึง 1,500 ปี ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก และได้รับการยกย่องเป็นแหล่งผลงานทางพุทธศิลป์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีนจนถึงปัจจุบัน
อันดับ 3. มองโกเลีย ดินแดนแห่งทุ่งหญ้า
มาผิดที่รึเปล่านะ!! เพราะ ระยะเวลาในการท่องเที่ยวที่เหมาะสม คือระหว่างเดือน พ.ค – ก.ย ของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงที่ทุ่งหญ้ากำลังเขียวสดงดงามและมีอุณหภูมิที่อบอุ่นพอเหมาะ นอกจากความงดงามทางธรรมชาติที่น่าสนใจแล้ว ประวัติศาสตร์ของชาวมองโกล ก็น่าใชสนใจเช่นกัน ดังเช่น วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของชาวมองโกลท่านเจงกิสข่าน (เตมูจิน) ซึ่งผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนักรบบนหลังม้าที่ห้าวหาญ ที่สามารถทำสงครามขยายดินแดนเพื่อครอบครองแผ่นดินทั้งเอเซียและบางส่วนของยุโรปได้
อันดับ 2. ทิเบต ดินแดนของชาวพุทธ
มาถึงอันดับ 2 กันแล้ว เชื่อเลยว่านี้คือดินแดนในฝันของใครหลายคนจริงๆ ดินแดนของชาวพุทธ ทิเบตตั้งอยู่บนเทือกเขาหิมาลัย เป็นที่ราบสูงที่สูงที่สุดในโลก หรือเปรียบได้กับเป็นหลังคาโลก ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 1.2 ล้านตารางกิโลเมตร (ซึ่งใหญ่กว่าประเทศไทยประมาณ 2 เท่า) มีภูเขาและที่ราบสูงที่สุดในโลก จนได้รับฉายาว่า “หลังคาโลก” ต้องบอกเลยว่า สามารถเที่ยวได้ทั้งปี โดยเฉพาะเดือน พฤษภาคม – สิงหาคม คือช่วงที่เหมาะที่สุดที่จะมาหาความฝันของคุณเลยละครับ และช่วงเดือนสิงหาคมจะมีจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองเทศกาลโซตอน(Shoton)หรือเทศกาลโยเกิร์ตที่จัดเป็นประจำทุกปี นอกจากจะจัดกิจกรรมนิทรรศการพระพุทธรูป ยังมีการแสดงงิ้วทิเบตอีกด้วย
อันดับ 1. ภูเขาสายรุ้งตันเซี๋ย
และแล้วก็ถึงอันดับที่ 1 ภูเขาสายรุ้งตันเซี๋ย ความสวยงามที่เกิดจากธรรมชาติลักษณะของภูเขาที่มีสีสัน สวยงามแปลกตา ซึ่งเกิดจากหินทรายสีแดง ถูกชะล้างด้วยน้ำฝนและลม ที่ทำให้เห็นเป็นสีต่างๆ ในหุบเขาอย่างชัดเจน ซึ่งโทนสีที่เราเห็นเด่นชัดที่สุดคือโทนสีแดง ไล่ไปตั้งแต่สีเหลืองอ่อนไปจนถึงสีแดงสลับสีสันกันไปมา จนกลายเป็นริ้วสีรุ้งทั่วทั้งหุบเขา ซึ่งประกอบไปด้วยหินทรายและแร่ธาติต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกเมื่อ 24 ล้านปีก่อน และนี้คือช่วง Hi Season ของที่นี่ ในช่วง Low Season ของเรา!! ด้วยอากาศที่เย็นสบาย และเป็นช่วงที่สีสันของภูเขาสายรุ้งเห็นได้เด่นชัดที่สุด จึงทำให้ ภูเขาสายรุ้งตันเซี๋ย ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในการจัดอันดับในครั้งนี้ครับ