จางเจียเจี้ย ดินที่ที่ขึ้นชื่อในความอัศจรรย์ของธรรมชาติที่ได้รับเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของจีนในปี ค.ศ.1992 และเปิดให้นะกท่องเที่ยวเข้าชมเมื่อปี 1995 พอใครที่ได้มีสัมผัสก็ต้องทึ่งในความอัศจรรย์จนจางเจียเจี้ย ได้เป็นแรงบรรดาใจให้กับฉากธรรมชาติของภาพยนต์เรื่องอวตาร และพอภาพยนต์เรื่องนี้โด่งดังไปทั่วโลก ภูเขาจางเจียเจี้ย จึงได้รับความนิยมไปด้วย
ปัจจุบันจางเจียงเจี้ย มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอยู่ใน 2 เขตหลัก คือ“เขตหย่งติ้ง”หรือเขตตัวเมือง ซึ่งมี “ประตูสวรรค์”(เทียนเหมินซาน)เป็นสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์และ “เขต(อนุรักษ์)อู่หลิงหยวน” ที่อยู่นอกเมือง มีขุนเขาอวตารเป็นไฮไลท์สำคัญอันเป็นหนึ่งขุนเขาอวตาร มีชื่อเรียกขานในภาษาจีนว่า“เทียนจื่อซาน” หรือ “ขุนเขาจักรพรรดิ” ทั้งนี้มีข้อมูลน่าสนใจระบุว่า เดิมกลุ่มขุนเขาชุดนี้มีชื่อเรียกขานกันว่า “ภูผาแห่งฟากฟ้าแดนใต้” (Southern Sky Column) เพราะตั้งอยู่ทางตอนใต้ของมณฑลหูหนาน
ขณะที่ในวิดีโอแนะนำการท่องเที่ยวของเมืองจางเจียเจี้ยที่“พิพิธภัณฑ์ภาพวาดทราย”(ตัวเมืองจางเจียเจี้ย) ได้กล่าวถึงขุนเขาแห่งนี้ว่ามีฉายาเรียกขานเปรียบดัง(ขุนเขา)“กระบี่หยดฟ้า” ดังที่ผมได้กล่าวถึงในข้างต้น อย่างไรก็ดีหลังจากที่ขุนเขาจักรพรรดิได้ถูกนำไปเป็นฉากสำคัญของภาพยนตร์เรื่อง “อวตาร”(Avatar)จากฝีมือการกำกับของ“เจมส์ คาเมรอน”พ่อมดแห่งวงการฟิล์ม โดยหนังอวตารได้นำภาพของขุนเขาจักรพรรดิ มาสร้างสรรค์ด้วยคอมพิวเตอร์กราฟิก(CG) ใส่จินตนาการเสริมแต่งเข้าไป ให้กลายเป็นขุนเขาลอยฟ้าแห่งดวงดาวแพนดอร่าอันน่าทึ่ง
ผลพวงจากชื่อเสียงความสำเร็จของหนังเรื่องอวตาร ทำให้ขุนเขาจักรพรรดิมีชื่อเสียงโด่งดังฮอตฮิตตามติดไปพร้อมๆกับหนังเรื่องอวตาร ที่สำคัญคือเมื่อหนังเรื่องอวตารลาจอนานแล้ว แต่ความโด่งดังของขุนเขาจักรพรรดิที่ใช้เป็นฉากสำคัญของหนังเรื่องนี้ยังดำรงคงอยู่ ทางการจีนโดยรัฐบาลท้องถิ่นจึงเปลี่ยนชื่อเรียกขานขุนเขาแห่งนี้เสียใหม่ว่า “ภูเขาฮัลเลลูยาห์แห่งอวตาร” (Avatar Hallelujah Mountain)แต่สุดท้ายแล้ว เหล่านักท่องเที่ยวทั้งชาวจีน ชาวไทย ชาวต่างชาติ นิยมเรียกขุนเขาแห่งนี้ตามชื่อหนังอวตารว่า “ภูเขาอวตาร” หรือ “ขุนเขาอวตาร” ซึ่ง ณ วันนี้ ขุนเขาอวตารถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติในอันดับต้นๆของเมืองจีน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมความมหัศจรรย์ของขุนเขาแห่งนี้กันไม่ได้ขาด