รีวิว ลี่เจียง (Lijiang) เที่ยวจีน ต้องเที่ยวให้สุด

By | October 8, 2020

ลี่เจียง (Lijiang) นี่ถือเป็นเมืองเริ่มต้นของทริป ลี่เจียง – แชงกรีล่า – ภูเขาหิมะเหม่ยลี่ (Lijiang – Shangri La – Meili Snow Mountain) ทริปนี้เลยเด้อ หลายคนอาจจะงงว่าทำไมมาโผล่เมืองลี่เจียงเลย คุณหมิง (Kunming) กับต้าหลี่ (Dali) หายไปไหน คือเวลาเที่ยวของทริปนี้ค่อนข้างจำกัดเว่อร์ แถมส่วนตัว นี่คิดว่าคุณหมิงยังไม่ค่อยมีอะไรมากเท่ากับลี่เจียงและแชงกรีล่า นี่เลยตัดสินใจลัดข้ามขั้นตอนบินจากคุณหมิงมาโผล่นี่เลยจ้าา 5555555

ถามว่าลี่เจียงดีมั้ย? ตอบเลยว่าดีมาก และยิ่งมารวมกับ แชงกรีล่า (Shangri-la) มันทำให้เราหลงรักการมาเที่ยวจีนมากสุดๆ ธรรมชาติสวย สถานที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม และภาพจำของทริปนี้ยังคงไม่ลืมจนถึงตอนนี้ เอ้ออ เกริ่นมาแบบเว่อร์ๆมั้ยล่ะ เอาเป็นว่า .. มาลองอ่านกันดูว่ามันจะดีมั้ย จากนั้นตัดสินใจเอาเลยว่าจะไปหรือไม่ไป ฮี่ฮี่ เริ่ม

ทริปยูนนาน ลี่เจียง-แชงกรีล่า-ภูเขาหิมะเหม่ยลี่

สำหรับทริปจีน ลี่เจียง – แชงกรีล่า – ภูเขาหิมะเหม่ยลี่ (Lijiang – Shangri La – Meili Snow Mountain) ทริปนี้ ก๊อตใช้เวลาทั้งหมด 7 วัน โดยบินจากกรุงเทพไปคุณหมิง แล้วต่อเครื่องไปลี่เจียง เพื่อไปเที่ยวต่อที่นั้นเลย เวลามันมีจำกัดม๊ากก เสียดายที่ยังไม่ได้เก็บเมืองคุณหมิงและต้าลี่ก่อน ฮือ .. เอาเป็นว่าทริปนี้ เราจะแบ่งรีวิวออกเป็น 3 พาร์ทด้วยกัน เรียงตามนี้เลยเด้อ

1. รีวิว ลี่เจียง (Lijiang)
2. รีวิว แชงกรีล่า (Shangri-La)
3. รีวิว ภูเขาหิมะเหม่ยลี่ (Meili Snow Mountain) กำลังเขียน

และนี่ขอแถมทริปจีนอีกทริปล่าสุดที่ได้ไปมาก่อนหน้าทริปยูนนาน (Yunnan) นี้ ทริปมณฑลเหอหนาน (Henan) คือ เจิ้งโจว – ลั่วหยาง – หยุนไถซาน – ไคฟง (Zhengzhou – Louyang – Yuntaishan – Kaifeng) ซึ่งเป็นทริปแรกที่ได้ประเดิมจีนเลย หากใครสนใจ หรือกำลังวางแพลนทริปในมณฑลเหอหนานอยู่ มาตามอ่านได้เล้ย

4. รีวิว เจิ้งโจว (Zhengzhou) กำลังเขียน
5. รีวิว ลั่วหยาง (Louyang) กำลังเขียน
6. รีวิว หยุนไถซาน (Yuntaishan) กำลังเขียน
7. รีวิว ไคฟง (Kaifeng) กำลังเขียน

การจองโรงแรม / ที่พักในจีน

เรื่องการจองตั๋วเครื่องบินรวมถึงโรงแรมในประเทศจีน ส่วนตัวนี่จะใช้เว็บ Trip.com ในการจองเกือบซะส่วนใหญ่ เพราะ Trip.com มันเป็น Online Travel Agency (OTA) ของจีนไง ทีนี้คือราคาตั๋วเครื่องบิน และโรงแรม จะมีราคาโปรที่ถูกกว่า OTA เจ้าอื่น รวมถึงตัวเลือกโรงแรมนั้นมีให้เลือกเยอะโครตๆ มากกว่าเว็บ Agoda, Booking และ Expedia มาก ยังไงต้องลองเทียบราคากันดูวันอันไหนถูกกว่ากันเนอะ // ตอนจองโรงแรม นี่เทียบหลายเว็บมาก

ก๊อตขอยกเคสตัวเองเลยแล้วกัน คือ เคยจองที่พักในเมืองเจิ้งโจว (Zhengzhou) กับเว็บ Trip.com วันถัดมา มีโทรศัพท์จากโรงแรมที่จีนโทรมาถามเลยว่า ‘ยูเป็นคนชาติอะไร?’ ซึ่งเค้ารับคนบางประเทศเข้าพักด้วย ซึ่งตอนนั้นบอกไป ‘ไทยแลนด์’ ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร และมีอีกครั้งที่จองอีกโรงแรม มีคนจาก Trip.com โทรมาเลยว่า โรงแรมนี้ไม่รับต่างชาติ ให้เราหาโรงแรมอื่น ซึ่งทีมซัพพอร์ต Trip.com ก็ค่อนข้างดีพอสมควร (ที่นี่ Support พูดภาษาอังกฤษเท่านั้น)

ที่พักในลี่เจียง (Lijiang)
Lijiang Hemuju Inn

ใครที่มาเที่ยวลี่เจียง นี่อยากแนะนำโรงแรมนี้มาก ตอนแรกไม่ได้คาดหวังอะไร แต่เมื่อได้ไปพักแล้วได้เจอลูกเจ้าของโรงแรมที่ชื่อ ‘ลินดา (Linda)’ ที่เค้าคอยพยายามและช่วยเหลือเรา ในเรื่องของการจัดการแท็กซี่มารับเราที่สนามบิน การหาทัวร์ไปเที่ยว ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) ด้วย และนางเป็นคนเดียวในโรงแรมที่พูดภาษาอังกฤษได้ บอกเลยว่าโคตรดีย์ และเราประทับใจมาก // เอาจริง คือหาคนพูดภาษาอังกฤษด้วยยากมาก แต่นางทำให้ทริปในลี่เจียงง่ายขึ้นเยอะ 555555555

โลเคชั่นของ Lijiang Hemuju Inn นั้น มันจะซ่อนหลืบอยู่ใน ย่านเมืองเก่าลี่เจียง (Lijiang Old Town) หน่อยๆ ทำเลถือว่าใช้ได้ อาจจะทุลักทุเลตอนวันมาเช็คอินกับวันเช็คเอาท์หน่อยๆ ถ้าเราลากกระเป๋าใบใหญ่มา เพราะพื้นในย่านเมืองเก่าคือมันเป็นหินแล้วมีความขรุขระ อาจจะต้องลากกันเหนื่อยหน่อย 55555

การเข้า/ออกจากเมืองลี่เจียง

การมายังเมือง ลี่เจียง (Lijiang) นั้น หลักจะมีอยู่ 3 วิธี คือ รถบัส รถไฟ และเครื่องบิน ทีนี้ ถ้าเรานับเวลาโดยการมาจากเมืองคุณหมิงนั้น แต่ละแบบก็จะทำเวลาๆไม่ต่างกันมาก ประมาณ 7-10 ชั่วโมง ยกเว้นเครื่องบินที่ใช้เวลา 1 ชั่วโมงเท่านั้นเด้อ สำหรับใครที่ต้องการประหยัดที่นอนไปหนึ่งคืน สามารถมาโดยวิธีการนั่งรถบัส หรือรถไฟตอนกลางคืนได้ นอนยาวๆ แล้วพร้อมเที่ยวลี่เจียงในวันถัดไป

ส่วนตัวก๊อตนั่น นั่งเครื่องบินตรงมาจากคุณหมิงเลย เพราะต้องการทำเวลาแบบรวดเร็ว ขี้เกียจนอนในรถนานๆ ตอนนั้นได้ราคาประมาณ 1,456 บาท/คน จากสายการบิน China Eastern Airlines โดยการจองจาก Trip.com นี่แหละเด้อ ราคามันก็โอเคสำหรับเราอยู่นะ ไม่ได้แพงเว่อร์วังอะไรขนาดนั้น ส่วนการเดินทางจากสนามบินมายังโรงแรม แนะนำให้ลองติดต่อโรงแรมเราดูว่า เค้าสามารถหาคนมารับได้มั้ย ซึ่งที่พักก๊อตเอง Lijiang Hemuju Inn ได้หามาให้ในราคา 80 หยวน เทียบกับราคาที่รีเสิร์ชมาในเน็ต ราคานี้ถือว่ามาตรฐาน แถมได้รถแคมรี่แบบส่วนตัวอี๊กก ไม่ใช่แท็กซี่ธรรมดานะเออ ยังไงลองถามราคาอยู่ อย่าให้มันเกินนี้

ทัวร์เที่ยวภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain)

สำหรับเรื่องทัวร์เที่ยวภูเขาหิมะมังกรหยกนั้น นี่ได้ถามไปยังที่พักก่อนไปถึงว่ายูมีทัวร์ให้นี่มั้ย? ซึ่งลินดา นางตอบว่ามีสิ๊ โดยเสนอมาในราคา 450 หยวน/คน และถ้าเราจะดูการแสดง Impressions Lijiang Show จะมาในราคา 580 หยวน/คน ซึ่งแพ็คเกจนี้ไม่ใช่ทัวร์ส่วนตัว มันจะมีคนร่วมทริปกับเราประมาณ 4-5 คนโดยนั่งรถไปด้วยกัน ซึ่งทัวร์ในที่นี้คือ เค้าจะอำนวยความสะดวกในเรื่องของการหาซื้อตั๋วให้เราหมด ไปรับ-มาส่งที่โรงแรม เตรียมเสื้อโค้ท + กระป๋องอ็อกซิเจนให้ และอาหารกลางวันง่ายๆ ตอนเดินเที่ยวสามารถแยกย้ายต่างคนต่างเดินได้ ซึ่งเค้าจะนัดจุดนัดพบกันอะไรประมาณนี้

จากราคาทัวร์ 580 หยวน ถ้าเราไปเองเต็มหนึ่งวัน แบบไม่ใช้ทัวร์ ราคาจะเท่าไหร่ ลองคิดดูตามนี้

  1. ค่าเข้าเขตภูเขาหิมะมังกรหยก – 100 หยวน
  2. ค่าดูโชว์ Impressions Lijiang Show – 280 หยวน
  3. ค่ารถบัสตอนขึ้นกระเช้าเคเบิ้ลคาร์ – 20 หยวน
  4. ค่าขึ้นกระเช้าใหญ่ Glacier Park – 120 หยวน

บวกกันไป บวกกันมา เอ้ออ ทัวร์แม่งถูกกว่าจริง นี่ยังไม่รวมค่ารถนู่นนี่นั่นด้วยนะ ดังนั้น .. ไปทัวร์เถอะแกร๊ ชีวิตมันจะง่ายขึ้นเยอะโว้ย ยกเว้นอย่างเดียวการสื่อสาร ซึ่งคนที่พาเราไปนั้น พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ต้องแอดคุยกันผ่าน WeChat ซึ่งแอพมันแปลภาษาให้อัตโนมัติ เตรียมโหลดแอพ WeChat ไว้ได้เลยจ้า มันมีไว้ใช้กันตายในเรื่องการสื่อสารได้จริงๆเว้ย

ข้อมูลแน่นแล้ว มาเที่ยวกันเถอะ!
หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue Moon Valley)

หลังจากคนในโรงแรมพาเรามาเจอกับไกด์ที่จะพาเราไปเที่ยววันนี้ อย่างที่บอกคือ พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ใช้การสื่อสารผ่านแอพ WeChat จากนั้นนางก็เริ่มขับรถไป ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) ระหว่างทาง เค้าก็จะรับเสื้อโค้ท กระป๋องอ็อกซิเจน และคนที่จะไปทริปนี้กับเราด้วย นับรวมนี่ด้วยทั้งหมดประมาณ 7 คน ทั้งหมดคือวัยรุ่นจีนที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เช่นกัน ส่วนรถยนต์ SUV ที่ใช้มารับนั้น คือแน่นไปเลย 5555

ที่แรกที่เราจะเที่ยวกันเป็นที่แรกคือ หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue Moon Valley) ซึ่งไฮไลท์ของที่นี่นั้นคือแม่น้ำที่ไหลลงมาจาก ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) กับน้ำสีเทอร์ควอยซ์ใสปิ้ง กับแบล็คกราวด์ด้านหลังที่เป็นภูเขาหิมะสวยๆ โชคร้ายไปหน่อย วันที่ได้ไปเที่ยวนั้น ท้องฟ้าไม่ค่อยเปิดเท่าไหร่ เมฆนี่บังภูเขาไปหมดเลยจ้าาาา

ทีนี้การจะเข้าไปยังจุดแม่น้ำตรงนั้น เค้าจะมีรถไฟฟ้าให้เรานั่งไปด้านใน โดยที่เราไม่ต้องเดิน แต่ Hop on and off ตามแต่ละจุด แน่นอนว่าเสียตัง แต่เราไม่รู้ว่ามันเท่าไหร่ เพราะไกด์เค้าเอาตั๋วมาให้เลย เพราะราคามันรวมอยู่ในทัวร์แล้ว

รีวิว ลี่เจียง (Lijiang) เที่ยวจีน ต้องเที่ยวให้สุด

ที่เที่ยวประเทศจีน